• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นเพราะอะไร ? รักษาได้เช่นไร ?

Started by Cindy700, January 07, 2023, 03:27:05 PM

Previous topic - Next topic

Cindy700

ตับมีปัญหา จำเป็นต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกที เนื่องจากถ้าเกิดปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบกระทั่งเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง รวมทั้งมะเร็งตับได้ด้วยเหมือนกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายมีชื่อ กล่าวเน้นย้ำเตือนถึงจุดสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย ถ้าเกิดคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และก็เมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนคืนมาดังเดิมได้" แล้วเราจะทราบได้เช่นไรว่าตับกำลังประสบปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? และก็ควรดูแลบำรุงยังไง..? เนื้อหานี้มีคำตอบให้คุณ  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นราวกับศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บผลิตภัณฑ์ (กักเก็บสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งยังโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด ฯลฯ) รวมทั้งยังเป็นโรงงานแปรรูป (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะใช้ประโยชน์เป็นพลังงาน) ถ้าเกิดร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็เหมือนตายทั้งเป็น คำกล่าวที่ว่าตับเป็นเสมือนหัวใจดวงที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการผลิต
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อสภาพร่างกาย ซ่อมส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็งตัว อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่ เป็นองค์ประกอบของเลือด ดังเช่น อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารและก็เกลือแร่ไว้ภายในหลอดเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยสลายไขมัน รวมถึงมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารประเภทไขมัน และก็ถึงสารเริ่มของฮอร์โมนบางประเภท
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินแล้วก็เกลือแร่บางชนิดที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยแปรรูป ของกินและก็ยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองพิษในเลือด
- ขับของเสียออกมาจากร่างกายในรูปแบบฉี่ หรือถ่ายมากับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องเผชิญหน้ากับปัญหาทรุดโทรมสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุอีกทั้งจากเชื้อไวรัส หรือโรคที่เกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์ตั้งแต่กำเนิด แต่ว่าหลักๆที่ทำให้คนส่วนใหญ่มีการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักมีต้นเหตุมาจากพฤติกรรมทำร้ายตับได้แก่
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบรับประทานอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานมาก มีความตึงเครียด
4.ชอบนอนดึก ตื่นสาย
5.กินยาหรืออาหารเสริมมากจนเกินความจำเป็น
6.ขาดการบริหารร่างกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นระยะเวลานาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารตอนเช้า
9.ชอบรับประทานอาหารครึ่งดิบครึ่งสุก
10.ทำงานเกี่ยวข้องกับ สารพิษ สารเคมี
11.มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมทุกวันซึ่งเราบางครั้งอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องพบ ก็เลยปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานมาก 24 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในแต่ละวันอีกด้วย โดยเราอาจจะลองดูอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา อาทิเช่น มีลักษณะเหน็ดเหนื่อยง่าย อ่อนล้า , มีปัญหาสำหรับการนอน , ท้องอืดเป็นประจำ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความต้องการของกินน้อยลง , แขนขา ท้องบวมโต เป็นต้นถ้าหากคุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวข้างต้นแล้วยังปล่อยปละละเลยกลับมาดูแลตับอีก.. รู้ตัวอีกครั้งความน่าสะพรึงกลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดก็ในขั้นรุนแรงอย่างตอนเป็นตับแข็ง หรือมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การดูแลรักษาตับพื้นฐาน
"ตับ" เป็นอวัยวะสามารถฟื้นฟูตนเองได้ โดยทางทฤษฎีถ้าเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ ดังนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับแบบไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตัวเองได้ แต่ว่ามิได้หมายความว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเย็นชาให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ เพราะว่าถ้าเกิดตับอักเสบซ้ำๆจนกระทั่งเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นโรคตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้นตัว ยิ่งโรคมะเร็งยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง.. สิ่งสำคัญที่สุดเป็น การเอาใจใส่บำรุงตับเพื่อป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในภายหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรเริ่มปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงเยอะขึ้น
(1) ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร
ลดของกินไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดปริมาณไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
เลี่ยงขนมหวาน เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นและก็รสชาติแทนน้ำตาลและผงชูรส
ทานอาหารปรุงสุก รักษาสุขลักษณะ ลดการเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
ออกกำลังกายให้ได้ 150 นาที/อาทิตย์ (หรืออย่างน้อย 60 นาที/อาทิตย์)
ระหว่างที่ทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือเปลี่ยนแปลงอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปขจัดของเสียในเลือด รวมทั้งก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) เลี่ยงการรับสารเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่สามารถที่จะเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบยาสูบให้ลดน้อยลงที่สุด
เลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือบริเวณที่มีการปนเปื้อนของสารเคมี รอบๆที่มีฝุ่นควัน มลพิษหนาแน่นแม้ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิม เพิ่มเติมเป็นหากรู้สึกว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราบางทีอาจทำได้ยาก ลองดูเคล็ดลับน่าสนใจ ที่สามารถจะช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ด(ไม่)ลับน่าสนใจ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องกิน..เรื่องสำคัญ" ของกินที่เรารับเข้าไปในทุกๆวันก็ก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ให้แก่ตับได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดียิ่งขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นกับว่าเรารับประทานอะไรลงไป.. และก็นี่คือ 3 ตัวช่วยน่าสนใจซึ่งสามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเจอได้ตามตลาดทั่วไป เปิดตู้เย็นเราก็เจอ แต่เครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้แฝงไปด้วยสรรพคุณที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ และป้องกันตับจากสารพิษ รวมถึง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่งานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยว่ากระเทียมผงช่วยสำหรับในการลดไขมันในคนที่มีภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
ถึงแม้ชื่อจะไม่ชินหูใครหลายคน แต่ว่ามันคือสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ รวมทั้งลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์คือ กรดโอลีโนลิกแล้วก็กรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณลักษณะเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมทั้งสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งส่งผลให้ตับมีสุขภาพดี ทำงานได้อย่างเต็มความสามารถตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวถือเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นหนึ่ง โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการทำการวิจัยว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆภายในร่างกาย ทั้งพบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียวจำนวน 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย และยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆตลอดวันยังช่วยดีท็อกซ์ล้างสารพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมจนโรคร้ายอาจถามหาโดยไม่ได้คาดคิด เมื่อต้องใช้ชีวิตและมีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นเรื่องจำเป็นซึ่งสามารถป้องกันและก็ลดความเสี่ยงสำหรับการเป็น ตับแข็ง หรือมะเร็งตับ โรคยอดฮิตที่เอาชีวิตชาวไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" สุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงเราทำขึ้นเองได้.. โดยหากสงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับอยากขอความเห็นผู้ที่มีความชำนาญ ขอรับคำแนะนำปัญหาสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage แล้วก็ Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีกลุ่มผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและเภสัชกรพร้อมให้คำปรึกษาคุณในทุกเมื่อ