• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

รีวิวหนัง ทรานส์ฟอร์เมอร์ส (กำเนิดจักรกลอสูร)

Started by luktan1479, June 23, 2023, 06:15:16 PM

Previous topic - Next topic

luktan1479

รีวิวหนัง 'ทรานส์ฟอร์เมอร์ส: กำเนิดจักรกลอสูร'แม้จะสัมผัสได้ว่า เรื่องราวของหุ่นยักษ์เอเลี่ยนที่มาแอบกบดานบ้าง ก่อความวุ่นวายบนโลกบ้าง ก็ยังคงอยู่เช่นเดิม ตามที่หนังทรานส์ฟอร์เมอร์สเคยเป็นมา แต่ก็ต้องยอมรับว่า การปรับแก้บางอย่างในหนังเรื่องนี้ ทำให้มันดูดีขึ้นผิดหูผิดตาเช่นกันหลังเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ ด้วยตัวละครที่ผู้คนหลงรักอย่าง 'บัมเบิ้ลบี' สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแฟรนไชส์ พาเรื่องราวที่เข้ารกเข้าพงให้กลับมาเข้าที่เข้าทาง ก็ได้เวลาลุยกันต่อด้วยหุ่นเหล็กโขยงใหญ่ ที่แฟนเดนตายของแฟรนไชส์นี้ชื่นชอบ นอกจากดึงเอาตัวละครเก่าที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยอย่าง ออฟติมัส ไพรม์ กลับมาปัดฝุ่น เพิ่มพูนด้วยตัวละครใหม่ฝ่ายออโตบอทและก็ยังมีตัวละครที่ใหม่กว่า อย่างเหล่าเดอะบีสต์เผ่าพันธุ์ "แมกซิมอลส์" เข้ามาเพิ่มเติม และสิ่งที่พวกหลังกระทำนั้น ส่งผลต่อโลกมนุษย์อย่างมหาศาล

สิ่งที่ทำให้การดูหนังภาคนี้ มีความน่าสนใจ ก็คือ การเล่าเรื่องในพาร์ทของตัวละครมนุษย์ หลังจากที่ผ่านมา พวกเขาไม่ค่อยมีบทบาทที่หนักแน่นเท่าไหร่นัก พอได้โอกาสสร้างใหม่ คนเขียนบทและผู้กำกับเลือกให้ตัวละคร(มนุษย์)หลักเป็นหนุ่มเชื้อสายลาติน กับสาวผิวสี สร้างสีสันที่แปลกแตกต่างออกไป แถมยังใส่เรื่องราวชีวิตของพวกเขาลงไปในหนัง พร้อมกับทำให้พวกเขาไม่ได้เป็นแค่ตัวเกะกะในสงครามของหุ่นยักษ์ หากยังมีส่วนร่วมจนกลายเป็นสิ่งใหม่ที่ชวนตื่นตาสำหรับแฟนหนังชุดนี้

แม้ในมุมมองของคนทั่วไป อาจจะรู้สึกว่า ตัวร้ายของภาคนี้ มันดูยิ่งใหญ่เกินเบอร์ไปมาก ตัวโตกว่าดวงดาวและสามารถเขมือบกลืนดาวเคราะห์เป็นอาหารได้ แต่กลับพึ่งพาลูกกระจ๊อกคอยช่วยเหลือ แต่ถ้าตัดแง่มุมเชิงตรรกะทิ้งไป สนใจแต่เรื่องการดำเนินเรื่อง ก็ยังพบว่าทุกอย่างคงดำเนินไปตามสูตร ส่วนตัวมองว่า หนังเดินได้ไม่เลว แม้ไม่ใช่ฝีมือของ Michael Bay (ผู้ที่เลื่อนตัวเองไปเป็นโปรดิวเซอร์ของหนัง) ก็ยังเอาอยู่ ฉากแอ็คชั่นช่วงไคลแมกซ์นั้นน่าจะตื่นใจยิ่งถ้าได้ชมในแบบ IMAX 3D

สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของหนังภาคนี้ คือ การเลือกที่จะกลับไปในยุค 90's ทำให้หนังอบอวลไปด้วยภาพของโลกในวันเก่า ใส่เพลงในยุคนั้นเข้ามาตั้งแต่ต้นยันจบ ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นฮิปฮอปอาร์แอนด์บีที่ดังในยุคนั้น แต่หลายเพลงนี่ก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกันนะเนี่ยนายแพทมองเห็นว่าหนังภาคนี้ คือความพยายามที่จะส่องสปอตไลท์ให้ มิราจ หุ่นตัวใหม่เข้ามาเป็นขวัญใจของผู้ชม โดยให้เขาได้เข้ามาทำหน้าที่เพื่อนซี้กับมนุษย์หนุ่มโนอาห์ บทบาทความเด่นเห็นได้ชัดตลอดเรื่องราว ขณะที่ บัมเบิ้ลบี แม้จะถูกขยับให้รับบทที่รองลงไป แต่ก็ไม่ได้ทอดทิ้ง ยังคงมีซีนของตัวเอง แถมยังทำให้คนดูร้องว้าวในความเท่ได้อีกด้วย

เมื่อหนังดำเนินไปถึงตอนจบของมัน ก็ยังพบว่ามีฉากแถมที่นำพาความเซอร์ไพรส์มาให้ ทำให้หลายคนร้องโอ้วกันเลยทีเดียว คงเพราะไม่มีใครคาดคิดว่า พวกเขาจะได้เจอสิ่งนี้และหลังจากนั้น ก็ไม่มีฉากแถมใดๆ อีก ผู้ชมสามารถนั่งได้จนกว่าจะถึงอักษรตัวสุดท้ายและจนกว่าไฟโรงจะเปิด เป็นอันเป็นเดินออกจากโรงได้ครับ!