สังกัดเดิม โอม ภวัต ฟ้องแบรนด์ดัง

[deam205]

สังกัดเดิม โอม ภวัต ฟ้องแบรนด์ดัง หลังประกาศปลดจากพรีเซ็นเตอร์ กระทั่งถึงมิได้ทำผิดสัญญา ย้ำเป็นเรื่องในสมัยก่อน-ไม่ขัดต่อกฎหมาย

วันที่ 20 เม.ย.2566 ที่ ชั้น21 ตึกจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ คุณสุจรรยา วิลเลกัส ผู้อำนวยการข้างข้อบังคับ บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด(มหาชน) ผู้แทน บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด อธิบายกรณีฟ้องฟ้องร้อง บริษัท UGO Nutrition จำกัด หลังบริษัทดังที่กล่าวถึงมาแล้วร่อนหนังสือประกาศปลด โอม ภวัต จิตต์สว่างดี ดาราหนังในสังกัดจีเอ็มเอ็มทีวี เลิกบทบาทหน้าที่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์

สืบไปจากก่อนหน้าที่ผ่านมา โอม ภวัต ดารานำชายซีรีส์ดัง เป็นข้อความสำคัญถูกเอ่ยถึงในโลกอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับความประพฤติในอดีต โดยเจ้าตัวได้ออกมาสารภาพว่าเคยบูลลี่แล้วก็แกล้งสหายที่เป็นออทิสติก และได้ขอโทษ รู้สึกผิด รวมทั้งรู้สึกเศร้า สารภาพว่าเหตุตอนนั้นเป็นบทเรียนราคาสูง ซึ่งเพียรพยายามปรับปรุงตัวให้ดียิ่งขึ้นมาตลอด

ต่อมาแบรนด์ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นได้ร่อนหนังสือประกาศปลดผู้แสดงนำชายชายหนุ่ม โดยมีเนื้อหาใจความว่า "ประกาศการหยุดหน้าที่พรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ให้กับแบรนด์ UGO Nutrition จากเรื่องของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ที่เป็นหลักสำคัญในโลกออนไลน์ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทางบริษัท UGO Nutrition ไม่เคยนอนใจ รวมทั้งได้เป็นข้างติดต่อสังกัดเดิมของนักแสดงอย่างเป็นจริงเป็นจังบ่อยมาก แต่ต้นขึ้นตรงต่อเฉยเมยต่อสิ่งที่บริษัทให้ความเอาใจใส่มาโดยตลอด"

"UGO Nutrition ให้ความสำคัญกับความรัก คุณประโยชน์ความทัดเทียม เกียรติความเป็นมนุษย์ รวมทั้งความรับผิดชอบเราจึงตัดสินใจยุติบทบาทพรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี เมื่อวันที่ 12 เดือนเมษายน 2566 เป็นต้นไป บริษัท ยูโก นูทรีชันน์ จำกัด" ตามที่เสนอข่าวไปแล้วโดย คุณสุจรรยา กล่าวว่า "ที่มาในวันนี้ก็เพราะเหตุว่าในกรณีที่ทางบริษัท UGO Nutrition จำกัด ได้มีประกาศจบหน้าที่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี โดยที่ไม่มีเหตุผลอันควรในการที่ยุติหน้าที่พรีเซ็นเตอร์อันนั้น รวมถึงทางจีเอ็มเอ็มทีวีไม่ได้มีการไม่ทำตามสัญญาหรือผิดข้อตกลงใดๆกับทางบริษัท UGO ซึ่งการที่ UGO ออกประกาศลักษณะอย่างนั้นทำให้บริษัทและก็นักแสดงก็คือคุณโอม ได้รับความเสียหาย เสียหายชื่อเสียง"



"ตั้งแต่แมื่อมีกรณีพาดพิงคุณโอมในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องในอดีตของคุณโอมในวัยเด็ก เป็นการปฏิบัติที่มิได้ขัดต่อกฎหมายนะคะ จำต้องบอกอย่างงี้ แล้วทางบริษัทเองไม่เคยเฉยเมย เราไม่เคยนิ่ง เรามีการติดต่อพูดจากับทาง UGO มาตลอด มีการพูดจาเพื่อหาข้อตกลงด้วยกัน"

"เราพูดจากันมาบ่อยมาก จนถึงวันก่อนพื้นที่ UGO จะมีประกาศตัวนั้นออกมาด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้การที่ UGO มีประกาศจบบทบาทพรีเซ็นเตอร์ออกมา ทางบริษัทจีเอ็มเอ็มทีวีได้รับความเสียหาย ทางจีเอ็มเอ็มทีวีรวมทั้งนักแสดงเลยจำต้องขอความยุติธรรมในกรณีนี้ เพื่อรักษากิตติศัพท์รวมทั้งเกียรติของบริษัท รวมทั้งศิลปิน โดยพวกเราคงจะจำต้องขอพึ่งทางกรรมวิธีของศาลยุติธรรม เพื่อรักษาไว้ซึ่งสิทธิ์รวมทั้งความเสื่อมโทรมในเรื่องของชื่อเสียงของบริษัท แล้วก็นักแสดงถัดไปค่ะ"

เป็นไปได้หรือเปล่าว่า จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นกับโอมทำให้เกิดผลกระทบกับทางแบรนด์ ก็เลยส่งผลให้ตัดสินใจยุติหน้าที่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ แม้สิ่งที่โอมทำจะไม่ผิดกฎหมาย แต่อาจจะผิดในทางของคุณธรรม? "อันนี้ทางพวกเราอาจตอบมิได้ คงจะจำต้องถามทาง UGO ค่ะ แต่ว่าในข้อจำกัดสัญญามิได้มีระบุเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ ช่วงนี้ทางพวกเราปฏิบัติการฟ้องไปแล้ว ยื่นฟ้องฝ่าฝืนค่าทำขวัญ ส่วนจำนวนเงินที่ฟ้องไป อันนี้คงไม่สามารถพูดได้เพราะเป็นข้อมูลในคดี"

ถ้าหากทาง UGO ติดต่อมาขอไกล่เกลี่ย? "จริงๆมันอยู่ในขั้นตอนการของทางศาล ยังไงทางคู่ความอีกฝั่งหนึ่งเขาย่อมจำต้องได้รับคำฟ้องอยู่แล้วจ้ะ ขั้นตอนการทางศาลต้องพบกันอยู่แล้ว ถามว่านอกรอบไม่มีแล้วใช่ไหม มันยังตอบไม่ได้ พวกเรายังไม่รู้จัก เพราะว่าพวกเรายังมิได้รับการติดต่อมาจ้ะ"

การที่ตัดสินใจฟ้องเป็นเพราะทางนั้นเขาร่อนจดหมายออกมาใช่ไหม? "เขามิได้ร่อนจดหมายนะคะ อยู่ดีๆเขาก็ประกาศ ทั้งๆที่เราสนทนากันตลอดเรื่อยมา จนกระทั่งก่อนวันประกาศเราก็ยังมีการคุยกัน แต่จู่ๆเขาก็ประกาศ ซึ่งทางเราไม่รู้ค่ะ"

หลังจากที่เขาประกาศไปแล้ว บริษัทได้รับผลกระทบมากไหม? "ก็จากที่สื่อออกข่าวสารก็ก่อให้เกิดผลกระทบกับกิตติศัพท์ของน้องรวมทั้งบริษัทค่ะ (จากดราม่านี้ยังมีผลกระทบกับสินค้าอื่นๆหรืองานอื่นๆของโอมอีกไหม?) ในช่วงเวลานี้ยังไม่มีผลกระทบจ้ะ"

ดูกระแสดราม่าของโอมอย่างไร ด้วยเหตุว่าหลายๆคนเห็นว่าบริษัทมิได้ออกมา Take Action อะไรเลย? "ทางบริษัทมองว่ามันเกิดเรื่องที่เกิดในอดีตและเกิดเรื่องในวัยเด็ก โดยทางสถานที่เรียนก็ได้ลงอาญาตามระเบียบกฎเกณฑ์ของสถานที่เรียน เขาได้รับการลงอาญาไปแล้ว น้องเองก็ได้ขออภัยไปแล้ว รวมทั้งมันไม่ใช่เกิดเรื่องที่กระทำผิดต่อข้อบังคับว่ากันอย่างงั้นเถอะ ด้วยเหตุดังกล่าวพวกเราไม่ได้นิ่งเฉย แม้กระนั้นนี่คือเหตุผลอย่างที่กล่าวว่าเป็นเรื่องในอดีต รวมทั้งเขาได้รับการลงอาญาตามวัยของเขา เป็นในตอนนั้นเขายังเด็กอยู่"

แต่คนก็ยังขุดประเด็นนี้ออกมาอีก เพราะอยากที่จะให้บริษัทออกมาบอกบ้าง? "เป็นอันนี้มีความคิดว่าในทางของผู้ที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์เราอาจห้ามมิได้ว่าคนไหนกันแน่จะคิดอย่างไร แต่ในทางของบริษัทมองที่เรื่องจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น ความเป็นมนุษย์จ้ะ ซึ่งมันจำเป็นต้องดูจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมากกว่าที่จะไปวินิจฉัยตามกระแสสื่อสังคมจ้ะ"

เดี๋ยวนี้สภาพจิตใจของโอมเป็นอย่างไรกันบ้าง? "ก็อาจไม่ดีหรอกค่ะ (โอมโดนจู่โจมในโซเชียลมาก เขามาขอให้ดูแลเรื่องข้อบังคับไหม?) อันนี้ยังไม่รู้จักเรื่องนะคะ ด้วยเหตุว่าถ้าหากเราจะดูก็คงจะเป็นในแง่ของประเด็นการปฏิบัติที่ฝ่าฝืนหรือขัดต่อข้อบังคับ ละเมิดสิทธิของน้อง พวกเราถึงจะดูค่ะ"

การที่บริษัทยื่นฟ้องทางแบรนด์นั้น กลัวคนจะมองว่าค่ายปกป้องโอมเกินความจำเป็นไหม? "จำเป็นต้องกล่าวว่าอันนี้คือเรื่องของข้อสรุปรวมทั้งคือเรื่องของธุรกิจนะคะ มันเกิดขึ้นจริง อย่างที่แจ้งว่าเรามิได้เป็นข้างยุติการเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะฉะนั้นอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับกระแสสังคมจะตัดสินจากความจริงที่เกิดขึ้นจ้ะ"
โอม ภวัต
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13731/