อิฐมวลเบา ใช้งานยังไง และมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง ?

[PostDD]

ก้อนอิฐมวลเบา หรือคอนกรีตมวลเบา (Lightweight Concrete) มีลักษณะเป็นสีเทา มีขนาดมาตรฐาน (กว้าง 20 ซม. ยาว 60 เซนติเมตร ดก 7 – 7.5 ซม.) ใช้สำหรับก่อผนังสร้างอาคารสูงหรือบ้านที่อยู่อาศัย เป็นอิฐประเภทยอดนิยมมากมายในตอนนี้ เพราะมีน้ำหนักเบา เพราะมีฟองอากาศในเนื้อก้อนอิฐหลายชิ้น ทำให้มัธยัสถ์องค์ประกอบ พร้อมด้วยฟองอากาศนี้ยังเป็นฉนวนความร้อนที่ดีทำให้บ้านไม่ร้อนอีกด้วย

การใช้แรงงานก้อนอิฐมวลเบา ก้อนอิฐมวลเบาเหมาะสำหรับนำไปใช้งานเป็นสิ่งของในการก่อผนัง สามารถก่อเป็นฝาผนังได้ทุกส่วนของบ้าน เนื่องจากก้อนอิฐมวลเบามีคุณลักษณะในการนำความร้อนต่ำ จึงช่วยทำให้ความร้อนจากด้านนอกไม่อาจจะเข้ามาภายในบ้านหรือด้านในห้อง ก็เลยทำให้บ้านมีอากาศที่รู้สึกเย็นสบาย จึงสามารถทำให้ใช้พลังงานน้อยลงและค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น และยังสามารถคุ้มครองหรือลดเสียงรบกวนจากภายนอกรวมทั้งเสียงดังรบกวนระหว่างห้องได้

คุณลักษณะเด่นของอิฐมวลเบา มีดังนี้

ทนต่อสถานการณ์อากาศ แล้วก็รองรับน้ำหนักก้าวหน้า

เป็นฉนวนทางความร้อนและสามารถทนไฟได้นาน 2 – 4 ชั่วโมง
มีน้ำหนักเบากว่าอิฐมอญ 2 – 3 เท่า และเบากว่าคอนกรีต 4 – 5 เท่า
กันเสียงรวมทั้งซับได้ดิบได้ดี สามารถกันเสียงได้ดียิ่งไปกว่าก้อนอิฐมอญ ช่วยตัดทอนความดังของเสียงจากข้างนอกอาคารรวมทั้งระหว่างห้องได้
คุณลักษณะด้อยของก้อนอิฐมวลเบา มีดังนี้

อิฐมวลเบาสามารถปรับปรุงได้น้อย เพราะว่าอิฐมวลมีขนาดใหญ่ ถ้านำไปประยุกต์ทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่ผนังบางทีอาจทำเป็นยาก

อาจมีปัญหาเรื่องปลวกกินได้ ด้วยเหตุว่าก้อนอิฐมวลเบามีส่วนประกอบของยิปซัมซึ่งเป็นของกินของปลวก
ด้วยรูปแบบของวัสดุที่มีรูพรุน ทำให้อิฐมวลเบาซับน้ำซึ่งส่งผลต่อความชุ่มชื้น ก็เลยไม่นิยมนำไปก่อเป็นผนัง ใช้ในงานห้องสุขาหรือห้องครัว

ถ้าต้องเจาะผนังเพื่อติดตั้งอุปกรณ์จำเป็นต้องใช้พุกที่ออกแบบมาเพื่อก้อนอิฐมวลเบา เพราะอาจจะทำให้กำเนิดความเสื่อมโทรมได้ เนื่องจากก้อนอิฐมวลเบาผนังบางทีอาจร้าวฉานได้มากกว่าก้อนอิฐมอญ

จะเห็นว่า อิฐมวลเบาถือได้ว่าเป็นอิฐที่เหมาะสมกับสถานการณ์อากาศในปัจจุบันที่มีอากาศร้อน เพราะเหตุว่าช่วยคุ้มครองป้องกันความร้อนเข้าสู่ข้างในตัวอากาศได้อย่างดีเยี่ยม และก็ถึงแม้ว่าจะแพงที่สูงกว่าก้อนอิฐประเภทอื่น แต่เมื่อเทียบกับจำนวนและก็ช่วงเวลาที่ใช้เพื่อการก่อสร้าง การใช้อิฐมวลเบาจะทุ่นเวลาได้มากกว่า ทำให้งานก่อสร้างมีความรุ่งเรืองแล้วก็เสร็จในระยะเวลาที่ระบุ