• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

8 สิ่งที่ได้รู้ จากการเป็นผู้รับจ้างมาครึ่งชีวิต

Started by Cindy700, April 06, 2023, 11:06:31 AM

Previous topic - Next topic

Cindy700

1. เนื่องจากพวกเราไม่ได้เกิดขึ้นมาเพื่อปฏิบัติงานอย่ างเดียว

พวกเราไม่ได้ปฏิบัติงานแล้วแฮปปี้ทุกวี่ทุกวัน หลายคราที่เรากลับไปบ้ า นแล้วอย ากจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แต่ว่าถ้าเกิดพวกเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต ได้แก่ วิ่งมาราธอน, ปลูกต้นไม้ และยังรวมไปถึงต่อ ป.โท

การเปลี่ยนโหมดมาทำเรื่องที่เราชอบจะมีผลให้จิตใจเบิกบานขึ้น และ เพิ่มความแน่ใจ เพราะว่าการเฟลจากที่ปฏิบัติงานส่วนใหญ่มักทำให้เราท้อแท้ใจ และก็ขาดความเชื่อมั่นในตนเองในตนเอง สำหรับเรามันมีผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน แล้วก็ อีกมากมาย


ยกตัวอย่ าง... มีสหายคนนึงถูกใจตัดเย็บเสื้อผ้ามากมาย จริงจังขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร ์อาทิตย์ เวลานี้ทำงานประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย จวบจนบัดนี้เปิดร้านขายออนไลน์สร้างเป็นอาชีพเสิรมที่มีรายได้มากยิ่งกว่างานประจำไปละ

2. หัวหน้าก็คนนะ.. รู้ยัง

สำหรับพนักงานประจำตัวจ้อยอย่ างเรา สิ่งที่เราเคารพยำเกรงที่สุดในสถานที่สำหรับทำงานก็น่าจะหนีไม่พ้นเจ้านาย คนที่เป็นหัวหน้างานเองก็มีนิสัยต่างๆนาๆ อย่ างตัวเราเคยพบทั้งๆที่แบบขึ้นชื่อว่าโ ห ด สุดๆทำงานหนัก ไปจนถึงวันๆไม่ทำหน้าที่การงาน คอยสั่งคนนู้นหนคนนี้หน แต่พอใช้ดูดีๆพวกเราก็พบว่า เฮ้ย หัวหน้าก็คนนี่หว่า

แต่ว่าคนๆนี้มันจะมาบ่นว่าขี้เกียจคร้านตื่น หรือโดนนายสั่งงานมากมายไม่ได้ยังไง เพราะเหตุใดน่ะเหรอ นอกเหนือจากการที่จะโดนหัวหน้าของเค้าเองเกลียดแล้ว ลูกน้องก็ยังจะไม่ให้ความยำเกรงด้วย หนำซ้ำบางทีก็อาจจะระรานกันเสียระบอบการปกครองทั้งทีม


หากให้ชี้แนะก็อย ากจะบอกว่าพย าย ามรู้เรื่องเค้าดีมากยิ่งกว่าว่าเค้าก็เป็นมนุษย์อย่ างพวกเราๆนี่แหละ เป็นคนดีบ้ า งคนพาลบ้ า ง นิสัยก็แตกต่างกันบ้ า งเป็นเรื่องปกติ อย่ าคิดว่าเรากับเค้าอยู่คนละขั้วกัน อย ากให้ดูในมุมที่ว่าถ้าเราไม่ทำงานให้เค้า เค้าจะเอางานตรงไหนไปส่งละ จริงๆหัวหน้าเลิกงานก็อย ากกลับบ้ า นไปพบครอบครัว

ไม่ได้อย ากอยู่ดึกดื่นๆให้ผู้ที่บ้ า นเป็นห่วงหรอก เวลาว่างก็ไม่ได้อย ากปฏิบัติงาน ก็อย ากท่องเที่ยวแบบเดียวกันนั่นแหละ แต่แค่ออกหน้าพูดมากแบบเรามิได้ ตำแหน่งมันค้ำคอ ลองคิดดู

เพียงแค่เราพรีเซนเทชั่นงานกับหัวหน้าก็เกร็งจะแ ย่ นี่เค้าจำต้องเอางานพวกเราไปเสนอกับหัวหน้าฝ่าย หรือ CEO ลูกน้องใครที่ช่วยแบ่งเบาภาระเค้าได้เยอะแยะ เค้าก็จะรักคนนั้นเป็นธรรมดา

3. อย่ ามั่นใจในตัวเองเหลือเกินในโลกออนไลน์

ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมั่นใจว่าโลกโซเชียลเป็นพื้นที่ส่วนตัว จะโ พ ส ต์ อะไรมันก็สิทธิ์ของเรา แต่รู้รึเปล่าว่า HR สมัยปัจจุบันนี้นอกจากจะมอง resume พวกเราแล้ว ยังมองเ ฟ ส บุ ค ของพวกเราด้วย เพื่อนพ้องพวกเราที่เป็น HR ยืนยันมาว่า Social media บอกความเป็นตัวตนที่จริงจริงของเราได้มากกว่า Resume เป็นสิบเท่า เห็นไหมว่าตัวตนบนโลกอินเตอร์เน็ต

ของพวกเรานั้นมีผลกับพวกเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อพวกเราเป็นพนักงานประจำเต็มกำลัง เรื่องเหล่านี้ยิ่งต้องระวัง อย่ างเราเป็นไม่สัมผัสเฟสบุ้คเลย หรือถ้าจะโ พ ส ต์ /แ ช ร์อะไร ก็คิดแล้วว่าหากหัวหน้ามามองเห็นก็ไม่เป็นไร


ถ้าอย ากมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆเสนอแนะให้แยกเฟสสถานที่ทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาห้วยณพด้วย เนื่องจาก ส่วนมากคนภายในสถานที่สำหรับทำงานเค้าก็ขอแอดกันอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องดราม่าในสถานที่ทำงาน คนนั้นคนนี้ เบื่องาน หัวหน้าโง่ ห้ามโ พ ส ต์ เด็ดขาด โ พ ส ต์ ปุ้บมีคนแคปปั้บแน่ๆ...!! เตือนแล้วนะ

4. โฟกัสที่ลู่วิ่งของพวกเรา พึงพอใจ ใส่ใจ แม้กระนั้น... อย่ าเก็บลู่วิ่งผู้อื่นมาอิจฉาริษยา

ตอนปีที่ล่วงเลยมานี้ เพื่อนฝูงเราหลายๆคนเริ่มศึกษาต่อ สร้างครอบครัว บางบุคคลแปลงงานไปงานที่ค่าตอบแทนรายเดือนสูงสุดๆบางบุคคลเริ่มธุรกิจของตัวเอง บางคราวพวกเราเลื่อนมองหน้าเฟสและจากนั้นก็แอบคิดนะว่า เฮ้ย...!! คนนั้นคนนี้ก้าวหน้า แล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ แม้กระนั้นบอกเลยว่าชีวิตพวกเขาก็มิได้ดีกว่าเราหรอกเผลอๆเพื่อนหลายคนบางทีก็อาจจะกำลังอิจฉาริษยาชีวิตพวกเราอยู่ก็ได้

เคยมีคนเดินมาบอกพวกเราว่าแหม ชีวิตดีจังนะ... เป็นตัวเราเองก็ไม่ได้คิดเลยว่าชีวิตเราดี สิ่งที่เราคัดเลือกกรองโ พ ส ต์ ลงโซเชียลนั่นแหละที่ดี ควรจดจำไว้ว่าอย่ าเอาจังหวะชีวิตของพวกเราไปเปรียบเทียบกับบุคคลอื่น

จุดโฟกัสที่ลู่วิ่งของเรา ทราบดีว่าเรากำลังจะทำอะไร รู้ว่าปลายทางพวกเราต้องการอะไร รู้ว่าวันนี้เราทำดีกว่าเมื่อวานแล้วหรือยัง ก็เพียงพอแล้ว แอบมองลู่วิ่งคนอื่นๆบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงก ร ะ ตุ้ น ให้เรามุ่งมั่นกับชีวิตมากเพิ่มขึ้น แม้กระนั้นอย่ าเก็บมาเอาใจใส่จนกระทั่งกลุ้มใจพอ

5. เล่นการเมืองกับทุกคน

ประเดี๋ยวก่อน...!! อย่ าพึ่งจะตกอกตกใจไป.. เล่นการเมืองกับทุกคนมิได้แสดงว่า ให้เราไม่ต้องจิรงใจกับผู้ใด แต่... แปลว่า " เราไม่สนใจข้างใด " อย่ างที่รู้กันว่าในสถานที่ทำงานหลายๆที่

มีการเล่นพรรคเล่นพวก หรืออยู่ๆก็จะมีเสียงแว่วมาว่า คนนี้เด็กคนนั้น ซึ่งจากการเฝ้าสังเกตุมาเป็นระยะเวลา 3 ปี พบว่าผู้ที่เล่นการเมือง (มากมายๆ) จำนวนมากไม่มีความสุข ยิ่งพวกที่ตำแหน่งโตๆแต่เล่นเค้าไว้เยอะนี่ห้ามเพลี่ยงพล้ำเลยจ๊ะ มีคนรอคอยซ้ำมากเลย


" เล่นการเมืองกับทุกคน " ในความหมายนี่เป็น... การที่เรามองว่าคนนี้เป็นคนยังไง จะเข้ากับเขาได้อย่ างไร มิได้กล่าวว่าให้สตอเบอร์ปรี่ หรือ ฝืนตัวเอง แต่... แต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความพอใจ

โตมาในสังคมที่แตกต่าง การที่พวกเราดูแล้วรู้ดีว่าจะ " อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร " ได้อย่ างไรจะก่อให้พวกเราได้เปรียบมากๆเว้นแต่วางตัวง่ายแล้ว พวกเราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมทั้งบางคนที่ดูแล้วไม่ถูกจริตกัน

การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักทายสวัสดีตามมารย าท ไม่จำเป็นที่ต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... พวกเราไม่รู้เรื่องหรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงพวกเราเข้าไปปฏิบัติงานกับผู้ใดกันแน่ ด้วยเหตุนั้น อย่ าสร้างศั ต รู เด็ดขาด ถึงไม่ได้ร่วมงานกันในบริษัทนี้ แต่ในอนาคต บางทีอาจได้โครจรมาร่วมงานกันในที่ใหม่ๆก็ได้

6. โดนด่าวันนี้ ดีมากยิ่งกว่าโดนด่าทอตอนอายุ 50

เนื่องจากว่าอายุยังน้อย ความหวังจากคนรอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย แม้ว่าพวกเราจะรู้สึกบีบคั้นสำหรับในการปฏิบัติงานสุดๆแม้กระนั้นเชื่อเถอะ เราล้มเหลววันนี้ ดีมากยิ่งกว่าเราไปล้มตอนอายุ 50 พี่ๆที่เขาอยู่จนถึง 50-60 ก็ผ่านช่วงแบบพวกเรามาแล้ว

สิ่งที่อย ากจะชี้แนะคือ.. ใช้เวลานี้ให้คุ้ม พวกเราไม่ได้อายุ 20 กว่าๆตลอดกาล อย ากทำอะไรทำ อย าคำกล่าวมอะไรโ ง่ๆก็ให้รีบถาม พรีเซ้นแล้วมันแย่ก็พรีเซ้นไปเรื่อยฝึกฝนไปเรื่อยๆโดนด่าขณะนี้

เ จ็ บ น้อยกว่าโดนด่าตอนอายุ 50 มาก หากแม้จะผิดพลาด ด้วยความยังเด็ก และ อ่อนประสบการณ์ คนส่วนมากพร้อมจะให้อภัยพวกเราเสมอ โดยเหตุนี้ ล้มเหลวเป็นจำนวนมากเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์

วามไม่เหมือนกันระหว่าง " เพื่อนฝูง " กับ " เพื่อนผู้ร่วมการทำงาน " เป็นยังไง ที่เค้าบอกว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนฝูงย ากก็คงจริง สมัยประถม การหาเพื่อนฝูงใหม่ไม่ย ากเท่ายุคมัธยม รวมทั้งการหาเพื่อนในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแปลว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นมากแค่ไหน เราจะหาเพื่อนย ากขึ้นเพียงแค่นั้น และไม่จำเป็นต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนพ้องที่จริงใจคนนึงในออฟฟิศมันย ากเพียงใด


นอกเหนือจากการที่จะมีเรื่องมีราวผลตอบแทน ทั้งตำแหน่ง ค่าจ้างรายเดือน การประเมิน เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของผู้คนค่าจ้างรายเดือนอย่ างพวกเราเป็นไปดำเนินงาน มิได้ไปทำกิจกรรมสานสัมพันธ์หาสหาย ด้วยเหตุดังกล่าววันๆเราจึงจะพบแค่เพื่อนฝูงร่วมทีม ซึ่งส่วนมากและจากนั้นก็เป็นการคุยกันเพียงแค่เรื่องงานแค่นั้น

พวกเราโชคดีที่พบทีมที่ดี คุยได้ทั้งเรื่องส่วนบุคคลและเรื่องงาน พูดได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน แล้วก็สหายร่วมงานในครั้งเดียวกัน การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจอย่างงี้ เรามีความคิดว่ามันเป็นผลกำไรชีวิต พย าย ามหาคนเหล่านี้ให้พบในสังคมการทำงาน แล้วพวกเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดเดียวก็ยังดี ) ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่กลุ่มเดียวกันก็ได้ แค่ได้เผชิญ

สนทนาแลกความเซ็งดีแล้ว ให้เราลองถามตัวเองว่า "ถ้าหากเราลาออกจากที่นี่ พวกเรายังจะอย ากนัดคนนี้กินข้าวอยู่ไหม" ถ้าเกิดคำตอบคือใช่ ยินดีด้วย คุณเจอเพื่อนจริงๆในสถานที่ทำงานแล้ว

7. หาผู้ที่เป็นมากกว่า " เพื่อนผู้ร่วมการทำงาน " ให้เจอ แล้วจะอย ากไปทำงานมากขึ้น

ความต่างระหว่าง " สหาย " กับ " สหายร่วมงาน " เป็นอย่างไร ที่เค้าบอกว่ายิ่งโต ยิ่งหาสหายย ากก็คงจะจริง สมัยประถม การหาเพื่อนฝูงใหม่ไม่ย ากเท่ายุคมัธยม รวมทั้งการหาสหายในสมัยมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแสดงว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นเท่าไร พวกเราจะหาเพื่อนย ากขึ้นเพียงแค่นั้น

และไม่จำต้องบอกเลยว่าการหาสหายที่จริงใจคนนึงในที่ทำงานมันย ากเพียงใด นอกเหนือจากที่จะมีเรื่องผลตอบแทน อีกทั้งตำแหน่ง ค่าตอบแทนรายเดือน การคาดการณ์ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของคนเราเงินเดือนอย่ างพวกเราเป็นไปดำเนินงาน มิได้ไปทำกิจกรรมสานสมาคมหาเพื่อนพ้อง ด้วยเหตุนี้วันๆพวกเราก็เลยจะเจอเพียงแค่เพื่อนร่วมกลุ่ม ซึ่งส่วนมากและก็เป็นการคุยกันเพียงแค่เรื่องงานแค่นั้น

พวกเราโชคดีที่พบทีมที่ดี คุยได้ทั้งเรื่องส่วนบุคคลและก็เรื่องงาน เรียกได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน และเพื่อนร่วมงานในครั้งเดียวกัน การมีกลุ่มที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจแบบงี้ เรามีความรู้สึกว่ามันเป็นกำไรชีวิต

พย าย ามหาคนพวกนี้ให้พบในสังคมการทำงาน แล้วพวกเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดเดียวก็ยังดี ) ไม่จำเป็นที่ต้องอยู่กลุ่มเดียวกันก็ได้ แค่ได้เผชิญ คุยเปลี่ยนความเซ็งก็ดีแล้ว ให้พวกเราลองถามตนเองว่า "ถ้าเกิดเราลาออกจากที่นี่ พวกเรายังจะอย ากนัดคนนี้กินข้าวอยู่ไหม" ถ้าเกิดคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณเจอเพื่อนพ้องจริงๆในสถานที่ทำงานแล้ว

8. จงเป็น " ผู้รับจ้างมือโปร "

สรุปสั้นๆตามหัวข้อเลย ถ้าเกิดอย ากประสบผลสำเร็จ รวมทั้ง มีความสุข จงเป็น " ลูกจ้างมืออาชีพ " ให้ได้ พูดง่ายแม้กระนั้นทำย ากนะ เนื่องจากว่าผู้รับจ้างมืออาชีพก็คือคนที่ตระหนักได้ว่า " เราถูกจ้างมาด้วยค่าตอบแทนปริมาณหนึ่ง " ซึ่งพูดได้ว่าบริษัทเค้าปรารถนาอะไรบางอย่ างจากพวกเราแลกเปลี่ยนกับเงินเดือนนั้นๆ

พวกเราต้องทราบดีว่าบริษัทจ้างเรามาทำอะไร และ ทำมันให้ดีมากกว่าที่บริษัทมุ่งหวังถ้าหากอยากได้ความเจริญในหน้าที่ ถ้าหากงานที่ทำอยู่มีความรู้สึกว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของเรา ก็ไม่สมควรอดทนทำไป


ควรจะหางานที่พวกเราทำแล้วพวกเรามีความสุขรวมทั้งทำได้ดีเพื่อดึงศักยภาพของตนเองออกมาให้มากที่สุด นอกเหนือจากการที่จะทำให้เราเติบโตในหน่วยงานแล้ว ยังเป็นเหตุให้เราปรับปรุงตัวเองอยู่ตลอดเวลาและไม่เบื่อด้วย

เมื่อถึงจุดๆหนึ่งเราจะรู้เองว่าควรไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ชอบให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าบุคคลอื่น อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกกี่ครั้งก็ได้ ถ้าท้ายที่สุดพวกเราพบสายอาชีพที่พวกเรารักและก็อย ากทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก

และด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน " เราถูกว่าจ้างมาด้วยค่าตอบแทนปริมาณหนึ่ง " อย่ าทำงานหนักเกินกว่าค่าจ้างจนกระทั่งเกินความจำเป็น ทุ่มเทได้ แม้กระนั้นควรจะมีผลที่ดีตามออกมาด้วย ตัวอย่างเช่นได้ปรับค่าจ้างรายเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับบิดามารดา ญาติๆบ้ า ง หันกลับไปมองด้านหลังบ้ า งว่าผู้ที่เป็นบันไดให้เรามายืนจุดนี้ ขณะนี้เค้าเป็นอย่างไรกันบ้ า งนะ...? อย่ าลืมว่าพ่อแม่อายุมากขึ้นทุกวี่ทุกวัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย หากเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้ท่านแล้วหาเวลาไป มันไม่ลำบากหรอก แลกกับความสำราญของบิดามารดา
ลูกน้อง
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13457/